มือใหม่อยากลงทุน NFT ต้องทำอย่างไร?
เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยได้ยินคำว่า NFT กันมาบ้าง
และน่าจะมีคนไม่น้อยที่สนใจการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทนี้
โดยเฉพาะเมื่อมีข่าวว่าผลงาน NFT
สามารถทำรายได้ได้อย่างมหาศาล
แต่การจะเริ่มต้นกับ NFT นั้น
ควรเริ่มต้นอย่างไร บทความนี้จะพาไปรู้จักกับสิ่งที่มือใหม่ต้องรู้ไปด้วยกันครับ
NFT คืออะไร?
เรามาทบทวน NFT กันก่อนนะครับ NFT ย่อมาจาก Non-Fungible Token แปลว่า “โทเคนที่มีลักษณะเฉพาะ”
ซึ่งแต่ละโทเคนไม่สามารถใช้ทดแทนกันได้ ต่างกับคริปโทเคอร์เรนซี่ อย่าง BTC หรือ
ETH ที่เป็นสินทรัพย์แบบ
Fungible หรือไม่มีลักษณะเฉพาะ
ทำให้ bitcoin 1
เหรียญที่นาย A ถือ
มีค่าเท่ากับ bitcoin 1
เหรียญที่นาย B ถือเสมอ
ด้วยการที่ NFT เป็นโทเคนที่มีลักษณะเฉพาะ
จึงสามารถถูกนำไปใช้เป็นตัวแทนสินทรัพย์ที่มีลักษณะเฉพาะทั้งหลายได้
ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ ผลงานศิลปะ รวมถึงไอเทมในเกม เป็นต้น
อยากเป็นเจ้าของ NFT ต้องทำอย่างไร?
1.เลือกตลาด NFT ที่เหมาะสม
Pic : crypto 1
อันดับแรกคือการศึกษาว่าตลาดซื้อขาย NFT (NFT Marketplace) ไหนที่น่าเชื่อถือและตอบโจทย์ตัวเราที่สุด
โดยหลักๆ แล้วจะมีตลาดอยู่ 2 ประเภทคือ Primary Market และ Secondary Market ซึ่งสามารถอธิบายแต่ละตลาดได้ดังนี้
Primary
Market : เป็นตลาดที่เจ้าของผลงานนำมาขายเป็นที่แรก
โดยอาจวางขายทั้งแบบกำหนดราคา ประมูล ฯลฯ
แต่ส่วนใหญ่แล้วตลาดประเภทนี้จะไม่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปนำผลงานมาขายต่อได้
Secondary
Market : เป็นตลาดที่เปิดให้ทั้งเจ้าของผลงานและผู้ใช้ทั่วไปสามารถแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ได้อย่างอิสระ
โดยสามารถนำ NFT ที่ได้มาจากตลาด
Primary มาซื้อขายบนนี้ได้
ตัวอย่างตลาดที่น่าสนใจ
OpenSea : ตลาด
NFT ที่ใหญ่ที่สุด
ณ ปัจจุบัน สามารถซื้อขาย NFT
ได้ตั้งแต่ ผลงานศิลปะ ของสะสมดิจิทัล
ไอเทมในเกม การ์ดเกม และอื่นๆ อีกมากมาย โดย OpenSea รองรับสินทรัพย์จากเครือข่าย Ethereum, Polygon, Klatyn, และ
Solana นอกจากนี้
OpenSea ยังเป็นทั้ง
Primary และ
Secondary Market อีกด้วย
Bitkub NFT :
เป็นตลาดที่สร้างขึ้นบน Bitkub Chain โดยมีผลงานของเหล่าศิลปินไทยชื่อดังมากมายมาร่วมวางขายอยู่บนแพลตฟอร์มนี้
โดยใช้เหรียญ Bitkub Coin
(KUB) และกระเป๋า Bitkub NEXT ในการซื้อขายเป็นหลัก โดย Bitkub NFT จัดอยู่ในประเภท
Primary Market
Megaland : เป็นตลาดที่อยู่บน
Bitkub Chain เช่นกัน
แต่ผู้ใช้สามารถนำมาเชื่อมต่อกับกระเป๋า Bitkub NEXT แล้วนำ NFC ที่มีในครอบครองมาซื้อขายกันได้
จึงจัดอยู่ในประเภท Secondary
Market
2.เตรียมกระเป๋าดิจิทัล
Pic : crypto 2
กระเป๋าเงินดิจิทัล (Wallet) ในที่นี้
ไม่ใช่กระเป๋าใน Exchange
นะครับ แต่เป็นแอปพลิเคชั่นกระเป๋า เช่น MetaMask หรือ
Bitkub NEXT ที่เราต้องโอนสินทรัพย์เราไปเก็บไว้สำหรับเชื่อมต่อกับ
DAPP ต่างๆ
ซึ่งสิ่งที่ต้องระวังสำหรับ MetaMask
คือ เมื่อติดตั้ง กระเป๋าจะแจ้ง Recovery Phase ที่เป็นชุดคำศัพท์ตั้งแต่
12 คำขึ้นไป ใช้สำหรับการกู้ข้อมูลกระเป๋า ในกรณีลบแอปหรือเปลี่ยนอุปกรณ์
ควรจดชุดคำศัพท์เหล่านี้ลงกระดาษหรือวัสดุที่คงทน ห้ามถ่ายรูปหรือแคปภาพไว้เด็ดขาด
เพราะถ้ารูปหลุดออกไป ใครที่รู้ Recovery
Phase ก็สามารถเข้าถึงกระเป๋าได้เลย
3. เตรียมเหรียญให้ตรงกับเครือข่าย
การซื้อขาย NFT ส่วนใหญ่จะซื้อขายกันด้วยสกุลเงินดิจิทัลของเครือข่ายนั้นๆ
เช่น ถ้าเป็นตลาด NFT ที่อยู่บน
Ethereum ก็ต้องใช้
ETH ในการซื้อขาย
ถ้าอยู่บน Solana ก็ต้องใช้เหรียญ
SOL หรือถืออยู่บน
Bitkub Chain ก็ต้องใช้
Bitkub Coin เป็นต้น
ดังนั้น ก่อนเริ่มซื้อขาย NFT
ควรศึกษาให้ดีว่าตลาดที่เราต้องการใช้งานอยู่บนเครือข่ายใด
จากนั้นจึงค่อยเปลี่ยนเงินทุนเป็นสกุลเงินของเครือข่ายนั้นและโอนเข้าไปในกระเป๋าดิจิทัล
4. เชื่อมต่อกระเป๋า
โดยส่วนใหญ่ตลาด NFT จะมีปุ่มลงทะเบียนหรือเชื่อมต่อกระเป๋าไว้อยู่แล้ว
ให้ทำตามขั้นตอนของแต่ละเว็บไซต์ได้เลย
โดยแนะนำให้ศึกษาวีธีเชื่อมต่อเพิ่มเติมในส่วนของ FAQ แต่ละเว็บไซต์
5. เริ่มซื้อขาย NFT กันเถอะ!
Pic : crypto 3
ในการซื้อ NFT เราสามารถทำได้ 2 แบบคือ
การแข่งประมูลราคากับผู้ซื้อคนอื่น หรือการซื้อตามราคาที่ผู้ขายตั้งไว้
ซึ่งในบางตลาดเราสามารถเสนอราคาที่เราอยากซื้อให้ผู้ขายทราบ
ถ้าผู้ขายตกลงก็สามารถซื้อขายกันในราคาที่เราต้องการได้
ต่อมาคือ การขาย NFT เราสามารถวางขาย
NFT ที่เรามีอยู่ในครอบครองได้ทั้งแบบกำหนดราคาและแบบประมูลเช่นกัน
แต่อาจต้องรอให้ตลาดตรวจสอบและรับรองสักระยะหนึ่งถึงจะสามารถเริ่มขายได้
ซึ่งเราสามารถกำหนดราคาที่เราอยากขายได้ แต่ถ้าขายแพงเกินไปก็คงไม่มีใครอยากซื้อ
จึงควรตั้งราคาที่เหมาะสมจะได้มีคนมาซื้อเร็วๆ
แล้วถ้าอยากสร้าง NFT ของตัวเองล่ะ? การสร้าง
NFT เรียกว่าการ
Mint NFT สามารถทำได้โดยใช้ปุ่ม
Create ที่อยู่บนตลาด
โดยการสร้าง NFT เราต้องเตรียมค่าธรรมเนียมในการสร้าง
ซึ่งจะใช้เหรียญของเครือข่ายนั้น และอัตราค่าธรรมเนียมก็แตกต่างกันไปตามแต่ละเครือข่าย
แล้วจะสร้างรายได้จาก NFT ได้อย่างไร
วิธีสร้างรายได้จาก NFT นั้น
หลักๆ จะมีอยู่ 3 วิธีคือ
1.ซื้อขายแบบเก็งกำไร
เนื่องจาก NFT ก็มีมูลค่าผันผวนเช่นเดียวกับคริปโทเคอร์เรนซี่
ดังนั้น การลงทุนที่เรียบง่ายที่สุดก็คือการซื้อถูกขายแพง โดยอาจซื้อ NFT มาจากตลาด
Primary Market และนำไปขายผ่านตลาด
Secondary Market เป็นต้น
ซึ่งมูลค่าของ NFT อาจขึ้น-ลงตามสภาพตลาดและชื่อเสียงของเจ้าของผลงานหรือประโยชน์การใช้สอยของ
NFT นั้น
2.สร้างผลงาน NFT และวางขายด้วยตัวเอง
วิธีนี้เป็นวิธีที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มศิลปินชาวไทย
โดยเราสามารถสร้างผลงานศิลปะและนำผลงานนั้นไปเปลี่ยนเป็น NFT และวางขายในตลาดได้
ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ผลงานสามารถพบเห็นได้จากผู้คนทั่วโลก
จึงมีโอกาสที่จะมีคนสนใจผลงานและซื้อในราคาที่ดีได้
3. การเล่นเกม NFT
การเล่นเกมประเภท Play-to-Earn หรือบางครั้งก็เรียกว่า
เกมบล็อกเชนและเกม NFT โดยเกมประเภทนี้มีจุดเด่นคือ
เมื่อเล่นแล้วเราจะได้ไอเทมในเกมที่อยู่ในรูปแบบ NFT ซึ่งเราสามารถนำไอเทมนั้นไปขายต่อเป็นเงินจริง
หรือนำไปใช้เพื่อให้เราเล่นเกมได้เก่งขึ้น เพื่อที่จะได้ผลตอบแทนมากขึ้นต่อไป
ตัวอย่างเกมประเภทนี้ได้แก่ Morning
Moon Village หรือ Axie Infinity เป็นต้น
นี่เป็น 3 วิธีหลักๆ สำหรับการสร้างรายได้จาก NFT แต่เนื่องจาก
NFT จะมีประโยชน์ใช้สอยที่แตกต่างกัน
บางชิ้นอาจให้ผลตอบแทนได้เพียงแค่ถือไว้เฉยๆ หรือนำไปล็อกไว้บนแพลตฟอร์มที่รองรับ
บางชิ้นอาจสามารถนำไปแลกเป็นสินทรัพย์ชิ้นอื่นได้ ดังนั้น ก่อนซื้อ NFT ควรศึกษาประโยชน์การใช้สอยและจึงค่อยตัดสินใจ
ข้อควรระวังสำหรับมือใหม่ที่สนใจลงทุน NFT
1. ความผันผวนของมูลค่า
เนื่องจากตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่มีความผันผวนสูง ตลาด NFT ก็เช่นเดียวกัน
บางครั้งมูลค่าของสินทรัพย์อาจลดน้อยลงจนไม่สามารถทำกำไรได้ เพราะฉะนั้น
จึงควรวิเคราะห์ ติดตามข่าวสาร และบริหารความเสี่ยงให้ดี
2. มิจฉาชีพ เช่นเดียวกับการลงทุนเกือบทุกประเภท
มิจฉาชีพเป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องระวังเสมอ
โดยอาจมาในรูปแบบของการหลอกให้ลงทุนผ่านแพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นมาเพื่อหลอกเอาเงินผู้ใช้โดยเฉพาะ
หรือบางครั้งอาจใช้ชื่อ NFT
เป็นตัวล่อ แต่อาจไม่ได้เป็นจริงๆ ก็ได้
เพราะฉะนั้น การซื้อขาย NFT
จึงควรทำผ่านแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือเท่านั้น
3. การโอนผิดเครือข่าย
อีกหนึ่งเรื่องที่ควรระวังอย่างยิ่ง เพราะการโอนผิดเครือข่าย เช่น โอนสินทรัพย์จาก
Ethereum ไป Solana แบบผิดวิธี
อาจทำให้สินทรัพย์นั้นสูญหายไปได้เลย ดังนั้น
ก่อนโอนก็ควรตรวจสอบให้ดีว่าปลายทางเป็นเครือข่ายที่เราต้องการหรือไม่เสมอ
ส่งท้าย
เนื่องจาก NFT เป็นเรื่องที่ใหม่มากสำหรับหลายๆ คน
การศึกษาทำความเข้าใจและบริหารความเสี่ยงลงทุนจึงเป็นเรื่องที่ควรหมั่นทำให้เป็นนิสัย
โดยเฉพาะเรื่องของมิจฉาชีพและการเลือกแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ
ซึ่งนักลงทุนควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอันดับแรกๆ เสมอครับ