THE GURU • CRYPTOCURRENCY

แนวโน้มตลาดคริปโตปี 2023 ได้เวลาตลาดพลิกขาขึ้น??

บทความโดย: นเรศ เหล่าพรรณราย

            ปี 2022 ถือเป็นปีที่ยากลำบากของตลาดคริปโตอย่างแท้จริงโดยตลาดรวมเป็นขาลงตลอดทั้งปีหลังจากราคา Bitcoin ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 69,000 ดอลลาร์ แต่ ณ เดือนธันวาคม ราคาเคลื่อนไหวอยู่แถว 16,000 ดอลลาร์ หรือลดลงกว่า 70% จากจุดสูงสุด

             รวมถึงมีข่าวร้ายเกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมคริปโตตั้งแต่การล่มสลายของเหรียญ LUNA ตามมาด้วยแพลตฟอร์มคริปโตอื่นๆและเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดคือการล้มละลายของ FTX ซึ่งเป็น Exchange ใหญ่ระดับโลก

            ปี 2023 ที่กำลังจะมาถึง ตลาดคริปโตจะกลับมาเป็นขาขึ้นได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆที่มีโอกาสจะเกิดขึ้นในปีหน้า เรามาดูกันว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่จะทำให้ตลาดคริปโตมีทิศทางในเชิงบวก

1.นโยบายการเงินของ FED กลับทิศทาง

            การประชุม FED ครั้งสุดท้ายของปีนี้ FED เริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่น้อยลงเหลือ 0.5% เป็นการบ่งบอกว่าการใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดอาจจะถึงจุดพีคไปแล้ว แม้ว่าประธาน FED จะบอกว่าการเอาชนะเงินเฟ้อยังไม่จบลง แต่อย่างน้อยความเข้มงวดก็เริ่มมีทิศทางที่ลดลง

            ถ้าหากครึ่งปีหลัง FED ต้องปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินไม่ว่าจะเป็นการหยุดขึ้นดอกเบี้ยหรือแม้แต่การปรับทิศหันมาลดดอกเบี้ยเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจถดถอย จะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาสินทรัพย์ในสาย Growth ทั้งหุ้นเทคโนโลยีรวมถึงคริปโตได้

2.การอนุมัติกองทุน Bitcoin ETTF

            นักลงทุนสถาบันในสหรัฐฯยังคงรอคอยการอนุมัติกองทุน ETF ของ Bitcoin ที่ลงทุนในตลาด Spot จาก ก.ล.ต. สหรัฐฯเพราะนั่นหมายความว่าจะเกิดดีมานด์ของนักลงทุนสถาบันหรือกองทุนขนาดใหญ่ที่สนใจใน Bitcoin แต่ติดกฎเกณฑ์ทางกฎหมายทำให้ไม่สามารถลงทุนได้ แต่ถ้ามีกองทุน ETF ประเด็นดังกล่าวจะถูกปลดล๊อกทันที

            เมื่อเกิด ETF ของ Bitcoin ยังจะทำให้เกิดโปรดักต์การลงทุนอื่นๆอย่างกองทุนรวม กองทุนส่วนบุคคล ที่มีนโยบายลงทุนใน Bitcoin โดยตรงเกิดขึ้นทำให้เกิดเป็นแรงผลักดันฝั่งดีมานด์ได้ในที่สุด

3.กระแส Web3 จุดติด

            ทุกรอบขาขึ้นของคริปโตมักจะมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ๆไม่ว่าจะเป็น ICO จนถึง DeFi,GameFi หรือ NFT สำหรับขาขึ้นรอบหน้ามีโอกาสสูงที่จะเป็นรอบของเทคโนโลยีอินเทอร์เนตยุคที่สามหรือ Web3 ซึ่งการทำงานจะมีบล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีพื้นฐาน

            ประเด็นสำคัญคือบริษัททางด้านเทคโนโลยีระดับโลกกำลังแห่เข้ามาลงทุนใน We3 ไม่ว่าจะเป็น Google Meta ฯลฯ ทำให้มีโอกาสสูงที่ผู้ใช้งานทั่วไปจะสามารถเข้าถึง Web3 ได้โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีบล็อกเชนและคริปโตอยู่ในนั้น ซึ่งจะทำให้ตลาดคริปโตมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว

4.DeFi เข้าสู่ Mass Adoption

            กระแส DeFi ที่เกิดขึ้นในปี 2021 จนทำให้เกิดความนิยมในการลงทุนไปทั่วโลกก่อจะกระแสเงียบหายไปแต่การพัฒนาเทคโนโลยีไม่ได้หยุดไปด้วย โดยเฉพาะการศึกษาวิจัยและพัฒนาอย่างเงียบๆของสถาบันการเงินที่เล็งจะนำ DeFi มาปรับใช้กับระบบการเงินแบบดั้งเดิม ตลอดจน DeFi Protocol ที่เกิดขึ้นในยุคแรกกำลังเร่งพัฒนาปิดจุดอ่อนของตัวเอง

            ถ้าหาก DeFi ยุค 2.0 ได้รับการพัฒนาจนสามารถใช้งานได้จริงเป็นไปได้ว่าอาจจะเข้าขั้น Mass Adoption จะเป็นการผลักดันอุตสาหกรรมคริปโตให้เติบโตไปได้อย่างมั่นคง

5.การกำกับดูแลอุตสาหกรรมคริปโต

            การที่แพลตฟอร์มคริปโตไม่ว่าจะเป็น FTX หรือเหรียญ LUNA สร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนจำนวนมหาศาลในปีนี้ทำให้หน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกกำลังหารือที่จะเข้ามากำกับดูแลตลาดคริปโตให้มีมาตราฐานยิ่งขึ้น ถ้าหากกฎระเบียบไม่ถึงกับแบนคริปโต 100% แบบเดียวกับที่ประเทศจีนทำ เชื่อว่าอาจจะเป็นปัจจัยบวกต่ออุตสาหกรรมคริปโตมากกว่าลบ เพราะจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นจากนักลงทุนทั่วโลกที่จะกล้านำเงินเข้ามาลงทุน และท่าทีของหน่วยงานกำกับดูแลก็ไม่เคยแสดงท่าทีจะปิดกั้นตลาดนี้แต่อย่างไร

            นี่คือ 5 ประเด็นที่จะเป็นแรงผลักดันให้ตลาดคริปโตในปี 2023 มีโอกาสที่จะเป็นขาขึ้นได้ โดยมีปัจจัยหนุนในเชิงซัพพลายอย่างเช่นการเกิด Bitcoin Halving ที่จะเกิดในช่วงไตรมาสแรกของปี 2024 รออยู่ซึ่งตลาดอาจจะตอบสนองก่อนล่วงหน้า 6 เดือน แต่ต้องอยู่ภายใต้สมมุติฐานเชิงดีมานด์ทั้ง 5 ข้อนี้จะต้องเกิดขึ้นด้วย

เกี่ยวกับนักเขียน

นเรศ เหล่าพรรณราย ซีอีโอ Ricco Wealth,เลขาธิการสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย Co-Founders SCN Media Pte.Ltd ฟินเทคด้านการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีเครือข่ายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ / คอลัมนิสต์ด้านฟินเทคและวิทยากรด้านการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล

อ่านบทความทั้งหมดของนักเขียน