NEWS UPDATE • RESEARCH

เริ่มฟื้น

คาดตลาดวันนี้ “Sideway Up” มองแนวรับที่บริเวณ 1,605 / 1,600 และแนวต้านที่บริเวณ 1,615 / 1,620 คาดตลาดจะได้รับจิตวิทยาเชิงบวกจากตลาดต่างประเทศบ้าง หลังเมื่อคืนนี้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐโดย Conference Board (CB) เดือน ธ.ค. ออกมาอยู่ที่ระดับ 108.3 สูงกว่าที่ตลาดคาด และทำจุดสูงสุดใหม่ตั้งแต่เดือน เม.ย.’65 บ่งชี้ผู้บริโภคสหรัฐเริ่มผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับทิศทางเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตามเรายังมองในระยะสั้นตลาดยังคงมีความกังวลสหรัฐมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงปีหน้า จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ โดยเจ้าหน้าที่ FED หลายท่านออกมาส่งสัญญาณไปในทางเดียวกันว่า FED อาจปรับอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ และคาดจะคงอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงปี’67 อาจจำกัด Upside การฟื้นตัวของตลาดได้อยู่ ขณะที่เราคาดว่าในสัปดาห์นี้ตลาดจะรอดูตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน พ.ย. ของสหรัฐ คาดจะออกมาที่ระดับ +5.5% YoY และ +0.1% MoM สะท้อนเงินเฟ้อสหรัฐยังอยู่ในภาพการชะลอตัวลงแบบค่อยเป็นค่อยไป อีกทั้งคืนนี้แนะนำติดตามตัวเลขคาดการณ์ GDP 3Q’65 ของสหรัฐต่อ คาดจะออกมาที่ระดับ 2.9% QoQ

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ก.พ. รีบาวด์ขึ้นได้ดีปิดที่ระดับ 78.29 ดอลลาร์/บาร์เรล +2.06 ดอลลาร์ (+2.70%) หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ออกมา -5.89 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดจะ – 1.31 แสนบาร์เรล สะท้อนอุปสงค์ที่ยังคงแข็งแกร่งในสหรัฐ คาดจะช่วยหนุนทิศทางราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานรีบาวด์ขึ้นได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามเรายังมองแนวโน้มเศรษฐกิจโลกชะลอตัวในปีหน้า คาดยังเป็นปัจจัยจำกัด Upside ของราคาพลังงานได้อยู่ ขณะที่เมื่อคืนนี้ค่าระวางเรือ Baltic Dry Index (BDI) ปรับตัวขึ้น 127 จุด (+7.96%) คาดจะหนุนแรงเก็งกำไรระยะสั้นหุ้นในกลุ่มเดินเรือ (PSL และ TTA) ได้บ้าง

สำหรับปัจจัยในประเทศเรายังคงมุมมองเชิงบวกอ่อนๆ ต่อการที่ ครม.ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปีใหม่ “ช้อปดีมีคืน” โดยนำค่าใช้จ่ายการซื้อสินค้าและบริการลดหย่อนภาษีในวงเงินไม่เกิน 4 หมื่นบาท เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, CRC, MAKRO และ BJC) ต่อ และขยายเวลาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่นจากลิตรละ 4.726 บาท เหลือลิตรละ 0.20 บาท ไปจนถึง 30 มิ.ย. ’66 มองเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว-สายการบิน (AAV และ BA)

ขณะที่การประกาศรายชื่อหุ้นที่จะเข้าคำนวณใน SET50 และ SET100 โดย CENTEL, COM7, DELTA และ RATCH เข้าคำนวณ SET50 ตามคาด ในส่วนของ SET100 หลักทรัพย์ที่เข้าคำนวณใหม่คือ AAV, BYD, DELTA, JAS, NEX, SABUY และ THG มองเป็นปัจจัยบวกระยะกลาง แต่ให้ระมัดระวังแรงขายทำกำไรในช่วงสั้นบ้างเล็กน้อยทั้งนี้ยังคงมุมมองภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในภาพของการฟื้นตัวต่อเนื่อง สวนทางทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงถือเป็นเพียงไม่กี่ประเทศในโลกที่เศรษฐกิจสามารถขยายตัวต่อเนื่องในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า อีกทั้งแนวโน้มการเลือกตั้งใหญ่ของไทยที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือน มี.ค.- พ.ค.’66 โดยล่าสุดที่ประชุมวุฒิสภาได้ผ่านร่าง พ.ร.บ. การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นให้เปิดช่วงให้ข้าราชการการเมือง ส.ส. สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่นหรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ช่วยหาเสียงเลือกตั้งได้ มองเป็นปัจจัยบวกต่อการเลือกตั้งใหญ่ในปีหน้าเพิ่มเติมเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยได้ต่อ


ธีมการลงทุน   “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้  “PSH”

กลยุทธ์  ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 12.50 / 12.30 Target 13.70 / 14.40 Stop <12.00

https://www.aira.co.th/upload/Market_1671673647_51063.pdf