Young Millionaire : ผศ.ดร.ยุทธนา ศรีสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท ไอแท็กซ์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด
ผศ.ดร.ยุทธนา ศรีสวัสดิ์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง
บริษัท ไอแท็กซ์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด
สร้าง Tax Automation Economy
บริหารจัดการภาษีแบบอัตโนมัติ
“Tax Automation Economy เป็นระบบเศรษฐกิจที่ระบบภาษีทำงานด้วยตัวเองอย่างอัตโนมัติ ลองจินตนาการว่าสิ้นปี สรรพากรส่งบิลมาให้องค์กรหรือพนักงานแต่ละคนว่าต้องจ่ายภาษีเท่าใด แล้วทุกคนมีหน้าที่แค่จ่ายเงินในส่วนนั้น จะเห็นว่า แทบไม่มีต้นทุนเพิ่มและไปกระทบกับการทำธุรกิจขององค์กรเลยแม้แต่น้อย ธุรกิจก็สามารถเติบโตได้อย่างอิสระมากขึ้นโดยไม่ต้องเสียเวลามายุ่งเรื่องภาษี”
ในปี 2012 ถือเป็นช่วงที่ธุรกิจสตาร์ตอัพเบ่งบานเต็มที่
บรรดาหัวกะทิรุ่นใหม่นำไอเดียในการแก้ Pain Point ของผู้ใช้มาผสมผสานกับเทคโนโลยี
สร้างเป็นธุรกิจและเติบโตได้อย่างรวดเร็ว และเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่
การเงินธนาคาร ได้รู้จักกับสตาร์ตอัพน้ำดีอย่าง “iTAX” แอปพลิเคชั่นบริหารจัดการภาษี
ที่เกิดจากงานวิจัยปริญญาเอก พวกเขามาพร้อมความเชื่อที่ว่า “ผู้เสียภาษี
คือฮีโร่ตัวจริงของประเทศ” ภาษีจึงควรเป็นเรื่องง่ายที่สุดสำหรับทุกคน
เพราะนี่คือสิ่งที่ผู้เสียภาษีควรได้รับ
“แนวทางการทำธุรกิจของ
iTAX ตลอด
10
ปีที่ผ่านมานั้นไม่เคยเปลี่ยนไป
พวกเราเชื่อเสมอว่าผู้เสียภาษีคือฮีโร่ตัวจริงของประเทศชาติ ดังนั้น
สิ่งผู้เสียภาษีควรได้รับเป็นรางวัลคือการทำหน้าที่นี้อย่างสะดวกสบาย ง่าย ครบถ้วน
สมบูรณ์ โดยไม่ต้องเหน็ดเหนื่อย”
ผศ.ดร.ยุทธนา ศรีสวัสดิ์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท ไอแทกซ์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด
ยังคงย้ำเจตนารมณ์เดิมตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท ตลอด 10 ปี
ที่ดำเนินธุรกิจมา เขายังเต็มเปี่ยมไปด้วย Passion แรงกล้า อีกทั้ง Pain Point เรื่องภาษีกับคนไทยก็ไม่เคยหายไป
ภาษียังคงเป็นเรื่องเข้าใจยากขนาดนักฟิสิกส์อัจฉริยะอย่าง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
ยังเคยกล่าวไว้ว่า “ภาษีเงินได้ คือสิ่งที่เข้าใจยากที่สุดในโลก”
iTAX เรื่องภาษีต้อง
Easy
ใช้ฟรี ไม่รู้กฎหมายก็ทำได้
ผศ.ดร.ยุทธนา เล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นธุรกิจของ iTAX ว่า
ไอเดียนี้เกิดขึ้นตอนเรียนปริญญาเอกที่ มหาวิทยาลัย Southern Methodist University ประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยเขาต้องการทำวิทยานิพนธ์เรื่อง แนวทางการป้องกันการเลี่ยงภาษี
จึงศึกษาค้นคว้าอย่างละเอียดจนทราบถึงปัญหาหลักด้านภาษี ซึ่งเกิดจากคน 2
กลุ่มคือ
1. กลุ่มคนที่ตั้งใจหนีภาษี
เป็นกลุ่มที่มีความตั้งใจจะทำผิดกฎหมายตั้งแต่แรก วิธีจัดการคือการใช้มาตรการทางกฎหมายลงโทษ
2. กลุ่มคนที่ยื่นภาษีไม่เป็น
เป็นกลุ่มที่มี Pain
Point จากขั้นตอนการเสียภาษีที่ซับซ้อน
ยากต่อการทำความเข้าใจ และเมื่อเข้าใจยาก จึงเลือกที่จะไม่สนใจ ซึ่งนี่คือกลุ่มที่
iTAX ต้องการจะเข้าไปช่วยแก้ปัญหา
จากไอเดียนี้เขาคิดต่อไปว่า
วิธีการที่จะทำให้คนที่ยื่นภาษีไม่เป็น ไม่รู้เรื่องภาษี
ต้องใช้วิธีสอนในลักษณะที่สามารถทำความเข้าใจได้ง่าย
เพื่อให้สามารถยื่นภาษีได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และสมบูรณ์
แม้ว่าจะไม่รู้ข้อกฎหมายด้านภาษีก็ตาม
“เรื่องภาษีไม่ใช่เรื่องที่ถูกเล่าสู่กันฟังและถ่ายทอดผ่านโครงสร้างทางสังคมไทยมาตั้งแต่ในอดีต
ที่ผ่านมาหลายคนรู้ว่าเมื่ออายุครบ 15 ปี
ต้องทำบัตรประชาชนเพราะมีทั้งสถาบันการศึกษาและครอบครัวคอยบอกอยู่เสมอ
แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า รายได้เท่าไหร่ถึงต้องยื่นภาษี ต้องใช้เอกสารใดประกอบบ้าง
ภายในวันไหน เดือนไหน อย่างไร ไม่มีใครสอนเรื่องนี้ จึงไม่แปลกที่ผู้คนจะไม่รู้”
ผศ.ดร.ยุทธนา
เผยว่า iTAX นั้นมาจากคำว่า
Intuitive TAX หมายถึง
การรับรู้ทางภาษีได้โดยสัญชาตญาณ
ผู้คนสามารถรู้ได้ทันทีว่าตนต้องชำระภาษีเป็นจำนวนเงินเท่าใดโดยไม่ต้องเปิดคู่มือภาษีประกอบ
เพราะ iTAX จะทำให้ทุกเรื่องภาษีเป็นเรื่องง่าย
ใครก็ทำได้ ไม่จำเป็นต้องรู้กฎหมายก็ยื่นภาษีได้อย่างครบถ้วน ถูกต้อง
พร้อมรักษาผลประโยชน์ทางภาษีให้กับผู้ใช้
ส่ง iTAX Paystation / iTAX BNK
หนุนวิชั่น Tax Automation Economy
ผศ.ดร.ยุทธนาเผยว่า
วิสัยทัศน์ของ iTAX คือ
ต้องการยกระดับสังคมให้อยู่ในลักษณะ Tax Automation Economy ซึ่งเป็นระบบเศรษฐกิจที่ระบบภาษีทำงานด้วยตัวเองอย่างอัตโนมัติ
เช่นเดียวกับการจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ
มีเพียงยอดสุทธิมาแสดงแก่ผู้ที่เสียภาษีเท่านั้นว่าต้องจ่ายจำนวนเท่าใด
โดยเบื้องหลังจะเป็นการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการคำนวณภาษี
มีการเขียนโปรแกรมเพื่อกำหนดเงื่อนไขต่างๆ
“Tax Automation Economy เป็นระบบเศรษฐกิจที่ระบบภาษีทำงานด้วยตัวเองอย่างอัตโนมัติ
ลองจินตนาการว่าสิ้นปี
สรรพากรส่งบิลมาให้องค์กรหรือพนักงานแต่ละคนว่าต้องจ่ายภาษีเท่าใด
แล้วทุกคนมีหน้าที่แค่จ่ายเงินในส่วนนั้น จะเห็นว่า
แทบไม่มีต้นทุนเพิ่มและไปกระทบกับการทำธุรกิจขององค์กรเลยแม้แต่น้อย
ธุรกิจก็สามารถเติบโตได้อย่างอิสระมากขึ้น โดยไม่ต้องเสียเวลามายุ่งเรื่องภาษี”
ผศ.ดร.ยุทธนา
อธิบายว่า iTAX
Paystation เป็นโปรแกรมเงินเดือนออนไลน์
ที่นำเทคโนโลยีจัดการงานบุคคลอัตโนมัติมาไว้ในตัว ช่วยคำนวณภาษีหัก ณ
ที่จ่ายรายเดือน ประกันสังคม และเตรียมไฟล์เพื่อใช้ยื่นภาษีและประกันสังคมได้ทั้งรายเดือนและรายปี
รวมถึงสร้างสลิปเงินเดือนพนักงาน และไฟล์ Payroll สำหรับโอนเงินให้พนักงานผ่านธนาคารได้อัตโนมัติ
ลดการกรอกข้อมูลซ้ำซ้อน และขั้นตอนคำนวณที่ยุ่งยาก
ภาพของ
Tax Automation Economy จะเกิดขึ้นทันทีเมื่อมี
2
สิ่งร่วมกันคือ บริษัทใช้โปรแกรม iTAX
Paystation และพนักงานใช้แพลตฟอร์ม iTAX ในการบริหารจัดการภาษี
เพราะ iTAX Paystation จะรวมข้อมูลรายได้ต่างๆ
ของพนักงานทั้งหมด ส่งไปที่ iTAX
อัตโนมัติ
เมื่อถึงรอบจ่ายภาษีพนักงานจะสามารถเห็นยอดข้อมูลทั้งหมดที่จำเป็นต่อการคำนวนภาษีได้ครบถ้วนทุกข้อมูล
ไม่ต้องกรอกข้อมูลเพิ่มเติมเลย เมื่อถึงวันที่ 1 ม.ค. พนักงานสามารถกดยื่นภาษีผ่าน iTAX ได้เลย
“iTAX
Paystation จะช่วยให้ผู้เสียภาษีรวมถึงนายจ้างเข้าใกล้ Tax Automation Economy มากขึ้นเพราะทุกข้อมูลที่พนักงานหรือนายจ้างต้องใช้เพื่อคุยกับสรรพากร
ตัวโปรแกรมจะเป็นเครื่องมือในการจัดการให้ทั้งหมด
อีกทั้งยังลดการใช้กระดาษสำหรับเอกสารต่างๆ
เพราะทุกข้อมูลถูกรวบรวมไว้แบบออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม iTAX”
ปัจจุบัน มีองค์กรจำนวน 30
แห่ง ใช้โปรแกรม iTAX
Paystation ผลตอบรับที่ได้นั้นดีมาก โดยเฉพาะฝั่งพนักงาน
เนื่องจากทำให้การยื่นภาษีในแต่ละปีมีความสะดวกอย่างมาก
ขณะที่องค์กรธุรกิจก็ชื่นชอบ เพราะใช้งานง่าย
ผศ.ดร.ยุทธนา
เผยอีกว่า iTAX ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการที่ชื่อว่า
“iTAX BNK” (iTAX Bank) ซึ่งเป็นการพัฒนาร่วมกับกรมสรรพากรและธนาคารกรุงไทย
โดยมีแผนจะเปิดตัวภายในเดือน ธ.ค. 2565
โครงการนี้ถูกต่อยอดจากการประกวดนวัตกรรมด้านภาษีของกรมสรรพากร (Hackatax) ที่
iTAX ได้รางวัลชนะเลิศ
โดยโจทย์ที่ได้รับคือการช่วยเหลือพ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ในการยื่นภาษี
ตลาดออนไลน์นั้นมีความน่าสนใจเพราะการแข่งขันในปัจจุบันค่อนข้างสูง
มีพ่อค้า-แม่ค้าเก่งหลายราย และเป็นตัวผลักดันให้ GDP ไทยเติบโตและมีความแข็งแกร่งจากฐานล่าง
แต่ปัญหาของตลาดนี้คือผู้ประกอบการมักมองข้ามเรื่องภาษี
ซึ่งในความเป็นจริงนั้นมีผู้ประกอบการหลายคนต้องการจะจ่ายภาษีอย่างถูกต้อง
แต่ติดปัญหาเรื่องกระบวนการที่ซับซ้อนและภาษากฎหมายที่เข้าใจยาก
สิ่งที่
iTAX ทำคือ
การบริหารจัดการเรื่องภาษีให้ทั้งหมดแบบอัตโนมัติ
โดยมีกติกาว่าผู้ประกอบการจะต้องเปิดบัญชีผ่านธนาคารกรุงไทยเพื่อเข้าโครงการนี้โดยเฉพาะ
และทุกครั้งที่เกิดรายรับ-รายจ่ายให้ดำเนินการผ่านบัญชีนี้ทุกครั้ง
ธนาคารกรุงไทยจะเก็บจำนวนยอดธุรกรรมและส่งข้อมูลกลับมาให้ iTAX เพื่อนำไปคำนวณภาษี
โดยขณะนี้ iTAX BNK ยังพัฒนาอยู่ใน
Sandbox ของกรมสรรพากร
คาดว่าจะมีค่าบริการประมาณ 300
บาทต่อเดือน
“พ่อค้าแม่ค้าหลายคนไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองต้องจ่ายภาษีเท่าใด
บางคนยอดขายเป็นล้านบาทก็กลัวว่าหากเสียภาษีจะต้องมีมูลค่าสูง
แต่ในความเป็นจริงจ่ายแค่หลักพัน นอกจากเรื่องภาษีแล้วเรายังทำบัญชีรายรับรายจ่าย
รายงานยอดขาย กำไร ต้นทุน
แสดงให้เห็นครบจบภายในที่เดียวโดยพ่อค้าแม่ค้าไม่ต้องทำเองอีกด้วย”
ผศ.ดร.ยุทธนา เผยต่อว่า ในอนาคต iTAX ยังมีแผนต่อยอดโครงการ
iTAX BNK ไปสู่กลุ่มหาบเร่-แผงลอย
โดยตั้งเป้าหมายพาผู้ประกอบการที่อยู่นอกระบบเข้าสู่ระบบให้ได้มากที่สุด โดย iTAX จะเก็บข้อมูลผู้ใช้และประมวลผลออกมาเป็นเรตติ้ง
ทำให้ผู้ใช้ที่ปฏิบัติตามระเบียบครบถ้วน เช่น ขึ้นทะเบียนหาบเร่-แผงลอย
ไม่มีปัญหากับเทศกิจ และยื่นภาษีอย่างถูกต้อง
จะได้รับการพิจารณาการเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงินที่เป็นพันธมิตรกับ iTAX ได้ง่ายขึ้น
ตั้งเป้า 5 ปี มีผู้ใช้ 5 ล้านราย
มุ่งสร้างอิมแพคเชิงบวกให้สังคม
ผศ.ดร.ยุทธนา กล่าวว่า
สำหรับการระดมทุนเพื่อเร่งการเติบโตนั้น iTAX จะเน้นมองหาการระดมทุนผ่าน Impact Fund หรือกองทุนที่ต้องการสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคมเป็นหลัก
โดยตลอดระยะเวลา 10 ปี
ในการดำเนินธุรกิจ iTAX ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานและองค์กรที่มีมุมมองเหมือนกันอย่างต่อเนื่อง
เพราะ iTAX สามารถแก้ปัญหาในเรื่องภาษีหลายอย่างได้ตรงจุด
ทำให้ธุรกิจของ iTAX เติบโตขึ้น
แม้จะไม่ได้ทะยานติดจรวด แต่ก็เป็นการเติบโตในลักษณะที่มีฐานแข็งแรง
ปัจจุบัน
iTAX ได้รับทุนสนับสนุนหลักในการทำธุรกิจจาก
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA)
ซึ่งเป็นทุนสำหรับธุรกิจที่มีความมั่นคง
แต่ต้องการเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจ โดย iTAX ใช้เงินทุนก้อนนี้ในการพัฒนาบริการ iTAX Paystation นอกจากนี้ยังได้รับเงินลงทุนจาก
ECG ซึ่งเป็นนักลงทุนที่อยู่ในสมาคม
Thai Venture Capital
Association (TVCA) โดยนักลงทุนทั้ง 2
กลุ่ม ต่างเข้าใจแนวคิดและจุดยืนของการทำธุรกิจของ iTAX เป็นอย่างดี
ผศ.ดร.ยุทธนา
เปิดใจว่า เป้าหมายของ iTAX
ไม่ใช่การขึ้นไปอยู่ในจุดที่เป็นยูนิคอร์นสตาร์ตอัพ
ซึ่งเป็นการเติบโตในด้านมูลค่าบริษัท แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ดี
และตัวเขารู้สึกดีใจที่เห็นยูนิคอร์นสตาร์ตอัพเกิดขึ้นในประเทศไทย แต่สำหรับ iTAX สิ่งที่วัดความสำเร็จไม่ใช่มูลค่าบริษัทที่พุ่งทะยานสูง
แต่เป็นความเปลี่ยนแปลงด้านภาษีที่เกิดขึ้นในสังคม
ความพึงพอใจของผู้ใช้บริการแพลตฟอร์ม รวมถึงบริการที่ iTAX ปล่อยออกสู่ตลาดจะช่วยสร้างระบบภาษีแบบ
Automation ได้มากน้อยแค่ไหน
“ความสำเร็จของ iTAX ไม่ได้มาจากเงินลงทุนก้อนใหญ่หรือรายได้ที่มหาศาล
แต่มาจากคำติชม การประเมินของผู้ใช้ และการบอกต่อกันไปเรื่อยๆ ของผู้ใช้งานว่า iTAX สามารถแก้ไขปัญหาด้านภาษีอย่างแท้จริง
อันนี้คือความสำเร็จในมุมของเรา”
ปัจจุบัน iTAX มีผู้ใช้ทั้งหมด 900,000
แสนราย มี Active User ในรอบการเสียภาษีประมาณ
4-5
แสนราย ซึ่งเติบโตขึ้นมาจากตอนให้บริการแพลตฟอร์มในช่วง 2-3
ปีแรกที่มีผู้ใช้เพียงหลักหมื่นคนเท่านั้น โดยใน 5 ปีจากนี้ iTAX ตั้งเป้าขยายกลุ่มผู้ใช้ไว้ที่ 5
ล้านราย และจะยังคงเดินหน้าสร้าง Tax
Automation Economy ให้แข็งแกร่งและยั่งยืนในประเทศไทยต่อไป
ติดตามอ่านคอลัมน์ Young Millionaire ได้ในวารสารการเงินธนาคารฉบับเดือนพฤศจิกายน 2565 ฉบับที่ 487 ในรูปแบบดิจิทัล : https://goo.gl/U6OnIi
รวมช่องทางการสั่งซื้อวารสารการเงินธนาคาร ทั้งฉบับปัจจุบันและฉบับย้อนหลัง ครบจบที่นี้ที่เดียว : https://bit.ly/3bQdHgt