ประกันสุขภาพเหมาจ่ายรับ 50 อัพ จ่ายเบี้ยแค่หลักหมื่นคุ้มครองเป็นล้าน
บริษัทประกันแห่ออกสัญญาเพิ่มเติม
ประกันสุขภาพเหมาจ่าย ครอบคลุมทุกค่ารักษา จ่ายเบี้ยหลักหมื่น คุ้มครองหลักล้าน
ขยายระยะเวลาความคุ้มครองถึงอายุ 75 ปี เปิดโอกาสกลุ่มวัย 50 อัพ เข้าถึงผลิตภัณฑ์ทั้งออฟไลน์และออนไลน์
การที่สังคมไทยกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ
รวมถึงแนวโน้มของค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้นทุกปีเฉลี่ยประมาณ 16% ต่อปี
ส่งผลหลายคนเมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงสูงวัยแต่ไม่มีการวางแผนทางการเงินอย่างเพียงพอ
เริ่มวิตกกังวลแล้วว่า หากเกิดเจ็บป่วยขึ้นมาใครจะเข้ามาดูแล จะทำประกันชีวิต
ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ
บริษัทประกันเขาก็ไม่รับประกันเพราะมีความเสี่ยงจากอายุเกินกว่าเกณฑ์ที่บริษัทประกันจะรับได้
แต่สำหรับสังคมผู้สูงวัยอย่างในปัจจุบัน
ข้อจำกัดของกลุ่มผู้สูงอายุจะหมดไป เพราะบริษัทประกันชีวิตและประกันวินาศภัย
ได้มีการพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุขึ้นมาโดยเฉพาะ
เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สูงวัยสามารถเข้าถึงการประกันชีวิตได้ง่ายขึ้น ดังนี้
1. ผู้เอาประกันจะต้องมีอายุตั้งแต่ 50
ปีขึ้นไป ซึ่งอาจมีการกำหนดอายุสูงสุดของผู้เอาประกันไว้ไม่เกิน 70-75 ปี
2. ให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตเป็นหลัก
3.
บางแบบประกันชีวิตสามารถซื้อสัญญาเพิ่มเติมได้ ยกตัวอย่างเช่น
3.1 สัญญาเพิ่มเติมอุบัติเหตุ
ที่ให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
หรือเบิกค่ารักษาพยาบาลกรณีบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ
3.2
สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ ที่ให้ความคุ้มครองกรณีเจ็บป่วยด้วยปัญหาสุขภาพ
หรือโรคร้ายแรง
หรืออาจเป็นในลักษณะการจ่ายค่าชดเชยรายวันกรณีพักรักษาตัวในโรงพยาบาล
แล้วแต่กรณีตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันชีวิต
4.
สามารถซื้อได้ภายใต้หลักเกณฑ์การพิจารณารับประกันชีวิตของบริษัทแล้วแต่กรณี ได้แก่
ต้องตรวจสุขภาพ หรือไม่ต้องตรวจสุขภาพ แต่ต้องตอบคำถามสุขภาพ
หรือทั้งไม่ต้องตรวจสุขภาพและไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพ
5. แบบประกันชีวิตที่ไม่ตรวจสุขภาพ
จะมีเงื่อนไขว่าหากเสียชีวิตใน 2 ปีแรกของการทำประกันชีวิต
บริษัทจะจ่ายเงินเท่ากับเบี้ยประกันภัยที่รับมาแล้ว บวกผลตอบแทนให้ในอัตรา 2-5%
แล้วแต่บริษัท เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าผู้เอาประกันภัยมิได้เป็นโรคใดๆ
มาก่อนทำประกันชีวิต และหากผู้เอาประกันภัย เสียชีวิตในปีที่ 3 เป็นต้นไป
ก็จะได้รับเงินเต็มตามจำนวนเอาประกันภัยที่ระบุไว้ในสัญญา
อย่างไรก็ตาม ต้องอย่าลืมเงื่อนไขสำคัญของการทำประกันผู้สูงอายุที่กำหนดเอาไว้ว่า
หากเสียชีวิตใน 2 ปีแรกของการทำประกันชีวิต
บริษัทจะจ่ายเงินเท่ากับเบี้ยประกันภัยที่รับมาแล้ว บวกผลตอบแทนให้เล็กน้อยในอัตรา
2-5% ซึ่งแตกต่างกันตามบริษัท เพื่อพิสูจน์ว่าผู้เอาประกันภัยมิได้เป็นโรคใดๆ
มาก่อนทำประกันชีวิตเท่านั้น
การทำประกันผู้สูงอายุนั้น
ก่อนตัดสินใจซื้อต้องศึกษารายละเอียดเงื่อนไข ความคุ้มครอง และข้อยกเว้นให้เข้าใจ
และเมื่อได้รับกรมธรรม์แล้ว
ต้องตรวจสอบเงื่อนไขในกรมธรรม์ว่าตรงกับความต้องการหรือไม่ หากไม่เป็นไปตามข้อตกลง
สามารถยกเลิกได้ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับกรมธรรม์ เป็นต้น
โดยบริษัทประกันภัยส่วนใหญ่จะไม่คุ้มครองโรคที่เป็นมาก่อนการทำประกันภัย
หรือเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงที่กำหนดไว้ ภายใน 90 วัน นับแต่วันเริ่มสัญญา เช่น
โรคมะเร็ง และหากผู้ขอเอาประกันภัยมีสุขภาพไม่แข็งแรง หรือมีโรคประจำตัวหลายอย่าง
บริษัทประกันภัยอาจจะพิจารณารับประกันภัยด้วยเบี้ยประกันภัยที่สูงกว่าคนปกติ
หรืออาจจะไม่รับประกันภัยเลยก็ได้
เอไอเอเฮลธ์แฮปปี้
จ่ายเหมา-เบิ้ล-คุ้ม
แพทย์หญิงหฤทัย ไกรวพันธุ์
ที่ปรึกษาด้านการวางแผนการเงิน เอไอเอ ประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้พัฒนาสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพเอไอเอเฮลธ์แฮปปี้
เป็นแผนประกันสุขภาพที่บริษัทพัฒนาขึ้นมาจากความต้องการของลูกค้าเพื่อให้เหมาะสมกับความจำเป็นของแต่ละบุคคลในแต่ละช่วงวัย
ตั้งแต่วัยเด็ก วัยทำงาน วัยเกษียณ เนื่องจากเป็นแบบประกันที่รับประกันจนถึงอายุ
75 ปี แต่สามารถขยายความคุ้มครองไปจนถึงอายุ 85 ปี กับ 3 จุดเด่นคือ
รับผลประโยชน์แบบเหมา หากป่วยด้วยโรคร้ายแรงรับผลประโยชน์ 2 เท่า และ
คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีเป็นผู้ป่วยนอก
สำหรับสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพเอไอเอเฮลธ์แฮปปี้
รับประกันตั้งแต่ 6-75 ปี ต่ออายุถึง 84 ปี คุ้มครองถึงอายุ 85 ปี มีให้เลือก 4
แผนประกัน วงเงินความคุ้มครองสูงสุด 25 ล้านบาท
โดยผู้ทำประกันต้องซื้อประกันชีวิตแบบใดก็ได้ของบริษัทเพื่อใช้เป็นกรมธรรม์หลักก่อนจึงจะสามารถซื้อสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพเอไอเอเฮลธ์แฮปปี้ได้
ให้ความคุ้มครองง่ายๆ คือ เหมา-เบิ้ล-คุ้ม
โดย “เหมา” คือ
รับผลประโยชน์แบบเหมาจ่ายในส่วนของค่ารักษาพยาบาลเมื่อต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
ส่วน “เบิ้ล” หมายถึงการรับผลประโยชน์สูงสุดเพิ่มเป็น
2 เท่า ต่อเนื่องรวม 4 ปีกรมธรรม์กรณีเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง ครั้งแรก และ “คุ้ม” ด้วยการรับความคุ้มครองที่ครบจบในผลิตภัณฑ์เดียว
ทั้งความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีเป็นผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยนอก (OPD) ความคุ้มครองค่าห้อง
ค่าอาหารและค่าบริการในโรงพยาบาล สูงสุดถึง 365 วัน
รวมถึงความคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดใหญ่ที่ไม่ต้องเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน
(Day Surgery)พร้อมรับสิทธิเป็นสมาชิกในโครงการ
เอไอเอ ไวทัลลิตี้ (AIA
Vitality) เพื่อรับส่วนลดเบี้ยประกันถึง 15%
และสิทธิในการรับบริการคำปรึกษาด้านการแพทย์จากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก จาก Medix โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
ครอบคลุมทุกการรักษา
เหมาจ่ายสูงสุด 10 ล้าน
นายสวัสดิ์ นฤวรวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่
และ Chief Life Operation
Officer บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
เปิดเผยว่า
เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้ทำประกันที่ต้องการวางแผนดูดูแลสุขภาพและค่ารักษาพยาบาลอย่างครอบคลุม
บริษัทได้ออกสัญญาเพิ่มเติม “ประกันสุขภาพ
VIP DD” เหมาะสำหรับคนวัยทำงานที่ไม่มีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล
หรือผู้ที่มีสวัสดิการอยู่แล้ว เพื่อเพิ่มเติมวงเงินค่ารักษาที่มีอยู่แล้ว
วงเงินค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่ายสูงสุด 10 ล้านบาทต่อปี มีแผนประกันให้เลือก 3
แผนคือ แบบเหมาจ่ายวงเงิน 3 ล้านบาท 6 ล้านบาท และ 10 ล้านบาท
เพื่อเลือกชำระค่าเบี้ยประกันภัยในแผนที่เลือกซื้อให้สอดคล้องกับความต้องการ
ซึ่งต้องซื้อพร้อมกับสัญญาประกันชีวิตหลัก ด้วยจำนวนเงินเอาประกันภัยตั้งแต่
100,000 บาทขึ้นไป
สำหรับความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพ
VIP DD ให้ความคุ้มครองทั้งกรณีรักษาตัวแบบผู้ป่วยใน
(IPD) และกรณีรักษาตัวแบบผู้ป่วยนอก
(OPD) อาทิ
ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการในโรงพยาบาล สูงสุดถึง 10,000 บาทต่อวัน, ค่ายากลับบ้านสูงสุดครั้งละ
3,500 บาท, ค่ารักษาพยาบาลเหมาจ่ายโดยการผ่าตัด
และหัตถการ รวมถึงค่าบริการรถพยาบาลฉุกเฉิน ฯลฯ
พร้อมรับความคุ้มครองเพิ่มเติมกรณีรักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) ครั้งละ
500-4,000 บาท สูงสุด 30 ครั้งต่อปี
นอกจากนี้
ผู้เอาประกันภัยสามารถเลือกรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนแรก (Deductible) ที่
30,000 บาท หรือ 50,000 บาท ซึ่งจะทำให้เบี้ยประกันภัยถูกลง
แต่ยังได้รับความคุ้มครองตามแผนประกันที่เลือกไว้
เหมาะสำหรับผู้ที่มีสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลอยู่เดิม ทั้งนี้
เบี้ยประกันสุขภาพสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาท
และเมื่อรวมกับการหักลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท
“VIP DD จึงเหมาะสำหรับโดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงาน
ทั้งที่มีสวัสดิการอยู่แล้ว เช่น ข้าราชการพนักงานบริษัท
และผู้ที่ไม่มีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล เช่น ผู้ประกอบอาชีพอิสระเจ้าของธุรกิจ
นักแสดง ฯลฯ
ซึ่งจะช่วยรองรับความเสี่ยงและคลายความกังวลเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต”
ประกันสุขภาพตอบโจทย์ทุกกลุ่ม
จ่ายเบี้ยราคาเดียว 25,000 บาท
นายโสภณ อุดมพฤกษา
ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายธุรกิจประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ บริษัท ฟอลคอนประกันภัย
จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำหรับผู้ทำประกันที่กำลังมองว่าแบบประกันสุขภาพเพื่อช่วยดูแลค่าใช้จ่ายด้านค่ารักษาพยาบาลที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นทุกปี
บริษัทนำเสนอแผนประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายชำระเบี้ยอัตราเดียว 25,000 บาทต่อปี
มีให้เลือก 3 แบบประกัน ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตนเอง ตั้งแต่วัยเริ่มทำงาน
จนถึงเกษียณอายุ
สำหรับแบบประกันสุขภาพ ชำระเบี้ยอัตราเดียว
25,000 บาท ประกอบด้วย แบบประกันสุขภาพคุ้มเวอร์ พลัส รับประกันตั้งแต่อายุ 20 ปี
จนถึงเกษียณ พร้อมขยายความคุ้มครองได้ถึง 75 ปี คุ้มครองสุขภาพสูงถึง 1 ล้านบาท
พร้อมรับความคุ้มครองอุบัติเหตุสูงสุด 300,000 บาทต่อปี
หากไม่มีเคลมจะได้รับส่วนลดค่าเบี้ย 15% เมื่อต่ออายุในปีถัดไป
อัตราเบี้ยประกันเท่ากันทุกปีที่ 25,000 บาทต่อปี
ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้นำเสนอแผนประกันสุขภาพ
Super Save ที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินจากความคุ้มครองของผู้ทำประกันที่มีอยู่แล้วทั้งจากสวัสดิการที่ได้รับจากองค์กร
หรือประสุขภาพของตนเอง เหมาะสำหรับผู้ที่มีประกันสุขภาพจากสวัสดิการอยู่แล้ว
เพราะสามารถใช้ประกัน Super
Save จ่ายค่ารักษาส่วนเกินได้เพื่อไม่กระทบกับเงินเก็บสำรองของตนเอง
โดยชำระเบี้ยประกันเริ่มต้นวันละ 11 บาท รับคุ้มครองสูงสุด 1 ล้านบาท
โดยไม่จำกัดวงเงินในแต่ละความคุ้มครอง เคลมได้เต็มวงเงิน 100%
สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนเกิน ตามทุนประกันและเงื่อนไขที่ลูกค้าเลือก
พร้อมรับความคุ้มครองอุบัติเหตุ 50,000 บาทต่อปีด้วย
นอกจากนี้
บริษัทยังได้พัฒนาแบบประกันโรคร้ายแรง CI 6 Fix ที่ให้ความคุ้มครอง 6 โรคร้ายแรง แบบ เจอ จ่าย
จบ ได้แก่ โรคมะเร็งทุกชนิด ทุกระยะแต่ไม่รวมมะเร็งผิวหนัง
โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน
โรคตับวาย โรคไตวายเรื้อรัง
โรคหลอดลมปอดอุดกั้นเรื้อรังขั้นรุนแรง/โรคปอดระยะสุดท้าย เมื่อตรวจพบโรคร้ายแรง
โดยบริษัทจะจ่ายทุนประกันให้ทันที ชำระเบี้ยเริ่มต้นเพียงวันละ 11 บาท
คุ้มครองสูงสุด 2 ล้านบาท พร้อมรับความคุ้มครองอุบัติเหตุ 100,000 บาทต่อปี
กรณีต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล รับเงินชดเชยรายได้สูงสุด 4,000 บาทต่อวัน
ฉลาดซื้อประกัน 50 อัพ อ่านให้ดี..ก่อนตัดสินใจ
สำหรับวัย 50 อัพ
หากต้องการทำประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพในปัจจุบันนั้น
ยังสามารถบริหารความเสี่ยงได้
แม้จะต้องจ่ายเบี้ยที่แพงกว่าหากเปรียบเทียบกับช่วงอายุต่ำกว่า 50 ปี แต่จะได้ความคุ้มครองหรือชำระเบี้ยมากน้อยแค่ไหนนั้น
ก็ขึ้นอยู่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน
และกำลังซื้อที่จะสามารถจ่ายเพื่อซื้อประกันไว้ป้องกันความเสี่ยงได้ อย่างไรก็ตาม
ไม่ว่าจะมีกำลังซื้อมากหรือน้อยแค่ไหน หรือเป็น 50
อัพมือใหม่ที่ต้องการทำประกันชีวิตหรือสุขภาพ ต่างก็มีหลักการง่ายๆ
เพียงแค่อ่านหรือสอบถามก่อนตัดสินใจ ดังนี้
1.
ความคุ้มครองและผลประโยชน์ว่าตรงตามความต้องการหรือไม่ จะได้เบิกได้ในกรณีใดบ้าง
2. ศึกษาข้อจำกัดของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ให้เข้าใจ
เช่น มีปัญหาสุขภาพ สามารถสมัครได้ไหม และจะ คุ้มครองได้แค่ไหน
3. ระยะเวลาในการคุ้มครองและระยะเวลาในการจ่ายเบี้ยประกันภัย
4. ค่าเบี้ยประกันภัย
เหมาะสมกับกำลังซื้อของตนเองหรือไม่
5. แบบประกันนั้นมีข้อจำกัด หรือข้อยกเว้น
อะไรบ้าง
6. สอบถามเจ้าหน้าที่ให้ละเอียด เช่น
หากเจ็บป่วย หรือเสียชีวิตต้องทำอย่างไร ติดต่อที่ไหน เบอร์โทรอะไร
7.
เมื่อได้รับเล่มกรมธรรม์ประกันชีวิตมาแล้วให้ศึกษาและทำความเข้าใจ
ในรายละเอียดและเงื่อนไขความคุ้มครองหากพบไม่ตรงกับความต้องการ
สามารถขอยกเลิกได้ภายใน 30 วัน
นับจากวันที่ได้เล่มกรมธรรม์ประกันชีวิตในกรณีซื้อทางโทรศัพท์ หรือขอยกเลิกภายใน
15 วัน กรณีซื้อผ่านตัวแทนประกันชีวิต
8. หากมีข้อสงสัยในเงื่อนไข
และความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันชีวิต สามารถติดต่อได้หลายช่องทาง เช่น
ตัวแทนประกันชีวิตที่ซื้อกรมธรรม์ ศูนย์บริการลูกค้าที่สำนักงานใหญ่
หรือสาขาทั่วประเทศ ศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ (Call Center) เว็บไซต์บริษัทประกัน
ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนของบริษัท เป็นต้น
ขณะเดียวกัน หากมีการทำประกันสุขภาพ
ซึ่งเป็นสัญญาเพิ่มเติมที่ซื้อเพิ่มจากกรมธรรม์ประกันชีวิตเพื่อให้ความคุ้มครองด้านค่าใช้จ่ายต่างๆ
เกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาล และเงินชดเชยรายได้เนื่องจากนอนพักรักษาพยาบาลเท่านั้น ไม่ว่าการรักษาพยาบาลนั้น
จะเกิดขึ้นจากการเจ็บป่วย หรือการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ
ซึ่งการพิจารณารับประกันภัยของบริษัทประกันภัย
จะขึ้นอยู่กับสุขภาพและอายุของผู้เอาประกันภัยเป็นสำคัญ