จัดพอร์ตประกันภัยฟรีแลนซ์ วางแผนลดความเสี่ยงด้วยตนเอง
กรุงเทพประกันภัย-เมืองไทยประกันชีวิต
แนะอาชีพฟรีแลนซ์ออกแบบวางแผนลดความเสี่ยงกับประกันรถยนต์ สุขภาพโรคร้ายแรง
ที่อยู่อาศัยจัดพอร์ตการออม ดูแลค่าใช้จ่ายยามเจ็บป่วย ด้วยตนเอง
ลดความเสี่ยงหากขาดรายได้ในอนาคต
อีกหนึ่งอาชีพที่มีความอิสระสามารถออกแบบไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิต
และการทำงานได้ด้วยตนเอง อย่าง“ฟรีแลนซ์” แม้จะมีความอิสระแต่ก็อาจจะมาพร้อมกับความไม่แน่นอนจากความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน
ดังนั้นกลุ่มคนเหล่านี้ควรที่จะต้องให้ความสำคัญในการวางแผนและบริหารจัดการชีวิตให้มากขึ้นด้วย
โดยหนึ่งในเครื่องมือสำหรับบริหารความเสี่ยงให้กับชีวิตและสุขภาพก็คือการทำประกันชีวิตและการทำประกันสุขภาพ
เลือกประกันภัยตามไลฟ์สไตล์
ลดความเสี่ยงบริหารค่าใช้จ่าย
ดร.อภิสิทธิ์
อนันตนาถรัตน กรรมการและประธานคณะผู้บริหารบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด
(มหาชน) อธิบายว่า
ปัจจุบันแม้จะมีการเก็บออมเงินหรือประกันสังคมมาช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นทุกปี
เฉลี่ยปีละ 8-10%
แม้จะมีการเตรียมความพร้อมทางด้านการเงินไว้เพื่อดูแลค่าใช้จ่ายในส่วนนี้แล้วก็ตาม
ก็อาจจะไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะในกลุ่มอาชีพที่มีรายได้ไม่แน่นอนอย่างกลุ่มอาชีพอิสระ
ที่มีรายได้ไม่แน่นอน ที่หากบาดเจ็บ หรือเจ็บป่วยต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล
ก็จะสูญเสียรายได้ที่เคยได้รับไปแต่ถ้ามีการวางแผนบริหารความเสี่ยงให้เพียงพอก็จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นได้
ทั้งนี้
บริษัทได้มีการพัฒนาแผนประกันภัยที่จะเข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยงให้กับกลุ่มอาชีพอิสระได้
ภายใต้แนวคิด Life Style
Insurance ที่ให้ความคุ้มครองหลากหลายให้ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมกับการใช้ชีวิตและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้โดยมีปัจจัยในการเลือกแผนประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองที่เหมาะสม
เช่น อาชีพ อายุ สุขภาพร่างกาย ทรัพย์สิน รายได้ เงินออม และภาระหน้าที่เป็นต้น
สำหรับแผนประกันในแนวคิด Life Style Insurance ประกอบด้วย
ประกันสุขภาพ Happy
Healthy Plan ความคุ้มครองที่สามารถเลือกแผนให้เหมาะกับความต้องการของตนเอง
หรือประกันภัยโรคมะเร็ง
สำหรับผู้หญิงพลัสอุบัติเหตุและประกันภัยโรคมะเร็งสำหรับผู้ชายพลัสอุบัติเหตุโดยเมื่อตรวจพบมะเร็งครั้งแรกรับความคุ้มครองสูงสุด
1
ล้านบาท รับเงินชดเชยสูงสุด 25,000บาทประกันภัยโรคมะเร็ง
Cancer Insurance ตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งครั้งแรก
รับทันที 100%
ของทุนประกันภัย
นอกจากนี้ยังมีแผนประกันอัคคีภัย
โครงการรักษ์บ้าน
การประกันภัยชดเชยผลประโยชน์จากอุบัติเหตุการใช้รถยนต์การประกันภัยพร้อมสรรพสำหรับเจ้าบ้าน
ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุม 3
สิทธิประโยชน์ใน 1
กรมธรรม์ โดยคุ้มครองอาคารและทรัพย์สินในอาคาร
ค่าใช้จ่ายพิเศษสำหรับการเปลี่ยนที่พักอาศัยชั่วคราว หรือการสูญเสียค่าเช่า
และการประกันความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอก
สำหรับผู้มีอาชีพอิสระ
สามารถเลือกวางแผนบริหารความเสี่ยงภัยด้วยตนเองได้หลากหลายรูปแบบ
เช่นอาชีพขับรถยนต์ เพื่อรับส่งสินค้า
ก็ควรเลือกบริหารความเสี่ยงภัยด้านของทรัพย์สินให้มากขึ้น
ด้วยการทำประกันภัยรถยนต์เพราะถือเป็นเครื่องมือในการหารายได้
ตัวอย่างที่1 นาย A อายุ 25 ปี โสด มีอาชีพขับรถยนต์ (กระบะ)
เพื่อรับส่งของโดยรับงานผ่านทาง Online
โดยจากข้อมูลนาย Aแนะนำว่าควรให้น้ำหนักประกันภัยด้านทรัพย์สินมากที่สุด
เนื่องจากรถยนต์เป็นทรัพย์สินที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตในการหารายได้
ในขณะที่สุขภาพของนาย A อาจจะยังคงแข็งแรงเนื่องจากอายุยังไม่มากอาจจะชะลอการบริหารความเสี่ยงในเรื่องนี้ไปก่อน
แต่ถ้ายังมีกำลังซื้อเพียงพอที่จะทำประกันสุขภาพได้ควรจะทำประกันสุขภาพควบคู่ไปด้วยโดยเลือกวงเงินความคุ้มครองที่เหมาะสมกับเบี้ยประกันที่ต้องชำระ
โดยในการทำประกันรถยนต์ควรเลือกทำประกันภัยรถยนต์ชั้น
1เพราะจะได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด
หากมีกำลังซื้อไม่เพียงพอที่จะทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ได้
แนะนำว่าควรเลือกประกันภัย 2+
รายปีหรือ 3+ รายเดือน
โดยเลือกความคุ้มครองความเสี่ยงภัยที่คาดว่าจะเกิดขึ้นให้มากที่สุด
โดยอาจจะเริ่มต้นที่ความคุ้มครองต่ำ เพื่อให้สามารถจ่ายเบี้ยประกันภัยได้
หากมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นจึงค่อยปรับเปลี่ยนวงเงินความคุ้มครองให้เหมาะสมในภายหลังได้
ตัวอย่างที่ 2 นางสาว B อายุ 35 ปี เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว
อาศัยอยู่กับลูกสาวในคอนโดที่ซื้อไว้กลางใจเมือง อาชีพนักตกแต่งภายใน
จากตัวอย่างนี้จะเห็นได้ว่านางสาว B นั้นเป็นบุคคลที่มีความสำคัญมาก
เพราะถือเป็นเสาหลักของครอบครัว และเป็นผู้ที่หารายได้เพียงคนเดียว ดังนั้น นางสาว
B ต้องการบริหารความเสี่ยง
แนะนำว่าควรจะต้องมีการทำประกันภัยเพื่อดูแลในเรื่องของร่างกาย สุขภาพ
และรายได้ควบคู่กันด้วยโดยในส่วนของบริษัทแนะนำให้ทำประกันสุขภาพ HealthyFlexi Plan ที่สามารถเลือกวงเงินความคุ้มครองให้เหมาะสมได้
หรือ แผน Happy Healthy
Plan (Family Package) ที่รับประกันภัยได้ทั้งนางสาว B และลูก
หรือจะเลือกทำประกันอุบัติเหตุ PA
For All ที่ให้ความคุ้มครองการชดเชยรายได้จากอุบัติเหตุ
เพราะหากนางสาว Bได้รับอุบัติเหตุต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล
ก็อาจจะขาดรายได้หากมีการทำประกันชดเชยรายได้เอาไว้ก็จะได้รับเงินชดเชยระหว่างที่นอนพักรักษาตัว
ตามเงื่อนไขที่ทำไว้ในกรมธรรม์
ช่วยให้มีรายได้มาช่วยค่าใช้จ่ายประจำวันในช่วงที่ไม่สามารถทำงานได้
หากนางสาว B ต้องการลดความเสี่ยงที่จะกระทบกับเงินออมหากต้องเผชิญกับค่ารักษาพยาบาลจากโรคร้าย
อาจจะเลือกทำประกันโรคมะเร็ง หากเกิดเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง หรือโรคมะเร็ง
ก็จะมีเงินจากบริษัทประกันภัยเข้ามาช่วยดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
โดยไม่กระทบกับเงินออมหรือหากมีบ้านพักอาศัย ควรจะทำประกันภัยที่อยู่อาศัย Home Cover Plus ที่มีความคุ้มครองพิเศษเพิ่มเติมความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก
ที่รองรับความเสี่ยงสำหรับผู้ที่อยู่อาศัยในคอนโดฯ
ตัวอย่างที่ 3 นาย C อายุ 30 ปี แต่งงานแล้วมีลูก 2 คน
อาศัยอยู่ในหมู่บ้านย่านทองหล่อ มีอาชีพเป็น Influencer ด้านการท่องเที่ยวชื่อดังบน Facebook จากข้อมูลนาย
C นั้นเป็นหัวหน้าครอบครัวและเป็นผู้ที่มีรายได้สูง
และอาจจะเพิ่งเริ่มมีการสร้างครอบครัว หากต้องการบริหารความเสี่ยงทั้งกับตนเองและครอบครัว
แบบประกันของบริษัทที่สามารถจะเข้ามาช่วยลดความเสี่ยงและภาระค่าใช้จ่ายจากเหตุที่ไม่คาดฝัน
เช่นประกันสุขภาพ Happy
HealthyPlan ที่สามารถทำประกันภัยได้ทั้งครอบครัวประกันโรคมะเร็งพลัสอุบัติเหตุ
คุ้มครองครอบคลุมในกรมธรรม์ฉบับเดียวประกันภัยการเดินทางต่างประเทศรายปี
รองรับการเดินทางตลอดทั้งปีซึ่งไม่จำกัดจำนวนครั้งประกันอัคคีภัยรักษ์บ้าน
สามารถเลือกรับทุนประกันภัยได้สูงสุดถึง 30 ล้านบาท
จัดพอร์ตสุขภาพ-เงินออม
สร้างอิสรภาพทางการเงิน
นางสาวจิตต์เกษม สุรธรรมานันท์
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด
(มหาชน) เปิดเผยว่า สำหรับกลุ่มอาชีพอิสระ หรือฟรีแลนซ์ ควรจะต้องมีการวางแผนการออม
และดูแลสุขภาพเช่นเดียวกับอาชีพอื่นๆเนื่องจากกลุ่มอาชีพอิสระ
จะไม่มีสวัสดิการที่จะเข้ามาช่วยดูแลเรื่องของสุขภาพอย่างพนักงานประจำ ถ้าไม่มีการบริหารความเสี่ยงและวางแผนการเงินอย่างเหมาะสมในช่วงที่สามารถหารายได้อย่างเพียงพอแล้ว
หากเกิดเหตุไม่คาดฝันจนได้รับบาดเจ็บหรือ เจ็บป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล
ก็อาจจะต้องใช้เงินที่เก็บออมไว้มาใช้จ่ายเพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้นทุกปี
สำหรับปัจจัยที่จะมากระทบต่อเงินออมของกลุ่มอาชีพอิสระ คือ
1. ไม่สามารถทำงานได้เหมือนเดิม เพราะบาดเจ็บ หรือเจ็บป่วย ทำให้ไม่มีรายได้
2. ค่ารักษาพยาบาลเมื่อต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล
ซึ่งจะไม่ว่าจะกรณีใด สิ่งที่เกิดขึ้นคือ กลุ่มอาชีพอิสระจะขาดรายได้ทันที หากไม่มีเงินสำรองก็จะกระทบต่อค่าใช้จ่ายประจำวันทันที
เช่น เคยมีรายได้วันละ 5,000
บาทเมื่อต้องเข้าโรงพยาบาลเท่ากับว่ารายได้หายไปวันละ 5,000
บาททันที
ดังนั้นสิ่งที่กลุ่มอาชีพอิสระ
ควรจะทำเพิ่มเติมนอกจากการออมเงิน และประกันสุขภาพ
คือการทำประกันที่มีเงินชดเชยรายได้ต่อวันด้วย เพื่อไม่ให้รายได้ต่อวันหายไป
นางสาวจิตต์เกษม แนะนำว่า
เนื่องจากกลุ่มอาชีพอิสระ
จะไม่มีสวัสดิการมาช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายหากเกิดเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บจนต้องเข้าพักรักษาในโรงพยาบาล
ดังนั้นจึงควรที่จะทำประกันสุขภาพเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปีเฉลี่ยปีละ
8-10%โดยควรเลือกวงเงินความคุ้มครองให้เหมาะสมตามกำลังซื้อของแต่ละคนเช่น
เลือกค่าห้องในฐานะผู้ป่วยใน (IPD)
ค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่าย
เพื่อให้ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลให้มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม แม้ค่ารักษาพยาบาลแบบ IPD จะมีความจำเป็นและต้องมีไว้
เพื่อปิดช่องทางทางเงินเมื่อเกิดเจ็บป่วย
เพื่อลดผลกระทบในการต้องไปดึงเงินเก็บมาใช้จ่าย
แต่ก็ควรจะเลือกทำประกันสุขภาพในวงเงินที่เหมาะสมตามกำลังซื้อด้วย
ตัวอย่างเช่น กรณีกลุ่มอาชีพอิสระ
ที่เริ่มต้นทำงาน และยังไม่สามารถสร้างรายได้ที่มากพอที่จะเลือกซื้อประกันสุขภาพที่มีความคุ้มครองวงเงินสูง
ก็สามารถเลือกวงเงินที่ต่ำเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงไว้บางส่วนก่อน
หลังจากทำงานไปได้ระยะหนึ่ง จนสามารถสร้างรายได้ที่มากพอ
แนะนำว่าควรจะเลือกวงเงินความคุ้มครองเพิ่มเติมเพื่อให้ครอบคลุมกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นให้เพียงพอ
สิ่งสำคัญในการเลือกวงเงินความคุ้มครองคือต้องไม่เกินกำลังซื้อที่มีอยู่
โดยในส่วนของบริษัท มีแบบประกันสุขภาพเหมาจ่าย เอ็กซ์ตร้า หรือแผนประกันสุขภาพ D Health ที่จะเข้ามาช่วยกลุ่มอาชีพอิสระในการวางแผนเรื่องสุขภาพได้
โดยชำระเบี้ยประกันเริ่มต้น1,000
บาทต่อเดือน เพื่อครอบคลุมความคุ้มครองสุขภาพได้
ตัวอย่างความคุ้มครองเหมาจ่าย เอ็กซ์ตร้าfile:เหมาจ่ายเอ็กซ์ตร้า.jpg
นางสาวจิตต์เกษม กล่าวว่า
นอกจากการวางแผนการเงินเพื่อดูแลค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพแล้ว
การเก็บออมสำหรับกลุ่มอาชีพอิสระ ก็มีความสำคัญด้วย โดยในช่วงที่สามารถสร้างรายได้ควรจะต้องมีการเก็บออมเงินไว้ด้วย
โดยอาจจะเก็บออมผ่านแบบประกันสะสมทรัพย์
ซึ่งเป็นการเก็บออมเงินเพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาวโดยสามารถเริ่มต้นที่ทุนประกันขั้นต่ำ
30,000
บาทต่อปี เพื่อเก็บออมเงินไว้ใช้จ่ายในยามจำเป็น
ขณะเดียวกัน การทำประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพยังสามารถนำเบี้ยประกันไปใช้ลดหย่อนภาษีได้
โดยในส่วนของเบี้ยประกันชีวิตสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 1
แสนบาท ประกันบำนาญ ใช้สิทธิ์ลดหย่อนได้สูงสุด 2 แสนบาท ประกันสุขภาพสูงสุด 25,000
บาท แต่เมื่อรวมกับประกันชีวิตแล้วต้องไม่เกิน 1 แสนบาท
นอกจากนี้กลุ่มอาชีพอิสระ
ยังสามารถลงทุนผ่านแบบประกันควบการลงทุนหรือยูนิตลิงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนได้
โดยสามารถเลือกกองทุนที่ต้องการเข้าไปลงทุนได้ด้วยตนเองจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่จะบริหารกองทุนให้ได้ผลตอบแทนที่ดี
ส่วนบริษัทประกันชีวิตจะให้ความคุ้มครองชีวิตหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นซึ่งในปัจจุบัน
บริษัทประกันมีแบบประกันยูนิตลิงค์ที่ลูกค้าสามารถเลือกความคุ้มครองชีวิตและสร้างผลตอบแทนได้ตามที่ต้องการแล้ว
รวมถึงช่วยวางแผนเกษียณอย่างมีความสุขได้