NEWS UPDATE • CAPITAL MARKETS

"กิมจั๊ว กรุ๊ป" ส่งเคซีจีฯยื่นเสนอขาย IPO 170 ล้านหุ้น-เข้า SET สร้างศูนย์กระจายสินค้า-ขยายการผลิต

บมจ.เคซีจี คอร์ปอเรชั่น ในเครือกิมจั๊ว กรุ๊ป ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ไม่เกิน 170,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 30.4% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดภายหลัง IPO มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมี บล.บัวหลวง เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

การระดมทุนครั้งนี้จะนำไปใช้ ลงทุนในการก่อสร้างและพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้า KCG Logistics Park เป็นศูนย์กระจายสินค้าแบบแช่แข็ง (Frozen) และแบบอุณหภูมิห้อง (Ambient) รวมถึงอาคารสำหรับจัดเก็บแป้งและน้ำตาล สำหรับใช้ผลิตสินค้า พร้อมทั้งลงทุนซื้อเครื่องจักรเพื่อขยายกำลังการผลิตและปรับปรุงพื้นที่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และคุณภาพการผลิต นอกจากนั้นจะใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัท  

เคซีจีฯ เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภค ซึ่งเน้นผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารและขนมตะวันตก (Western foods) โดยมี 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม (Dairy Products) กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการประกอบอาหารและเบเกอรี่ (Food and Bakery Ingredients) และผลิตภัณฑ์อื่นๆ และกลุ่มผลิตภัณฑ์บิสกิต (Biscuits)

อ้างอิงตามรายงานของ Euromonitor ที่ปรึกษาด้านการตลาดอิสระของบริษัท พบว่าในปี 2564 บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดผลิตภัณฑ์จากนมเป็นอันดับ 1 ของไทย มีส่วนแบ่งการตลาดเนยและชีส 55% และ 31.6% ตามลำดับ นอกจากนี้บริษัทยังมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ใน 5 อันดับแรกสำหรับผลิตภัณฑ์ประกอบการทำเบเกอรี่และผลิตภัณฑ์บิสกิต แบรนด์ที่มีชื่อเสียง ได้แก่  "Allowrie" "Imperial" "Rosy" "Violet" "Dairy Gold" "SUNQUICK"

บริษัทยังเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้านำเข้าระดับพรีเมียมจากต่างประเทศ (Selected by KCG) ได้แก่ "Arla" ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมเกรดพรีเมียมจากเดนมาร์ก, "Emmi" ผลิตภัณฑ์จากนมจากสวิตเซอร์แลนด์

ณ วันที่ 30 ก.ย.65 บริษัทมีงานโรงงาน 3 แห่ง ซึ่งอยู่ในสมุทรปราการ 2 แห่ง และบางนา 1 แห่ง ศูนย์กระจายสินค้า 4 แห่ง ในสมุทรปราการ เชียงใหม่ ขอนแก่น และสุราษฎร์ธานี รวมทั้งมีศูนย์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารภายใต้ชื่อ "KCG Excellence Center" และมีโรงเรียนศิลปการทำเบเกอรี่และอาหาร ชื่อ "Imperial Bakery and Food Culinary School" ดำเนินการภายใต้การควบคุมของกระทรวงศึกษาธิการ

บริษัทถือหุ้น 99.99% ในบริษัท อินโดกูนา (ประเทศไทย) จำกัด ทำธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าประเภทอาหารแช่แข็ง รวมถึงการเก็บถนอม และตัดแต่งบรรจุเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อสุกร เนื้อแกะ เนื้อแพะ รวมถึงโคลคัท สัตว์ปีกสด เช่น เนื้อเป็ด ไก่ ห่าน นก และอาหารทะเล เช่น ล็อบเตอร์ จำหน่ายให้แก่โรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยง (HoReCa) เป็นต้น

บริษัทมีทุนจดทะเบียน 560 ล้านบาท เป็นทนเรียกชำระแล้ว 390 ล้านบาท ณ วันที่ 9 ธ.ค.65 บริษัทมีผู้ถือหุ้นหลักคือ กิมจั๊วกรุ๊ป 284,400,000 หุ้น หรือคิดเป็น 72.9% ภายหลัง IPO จะลดสัดส่วนเหลือ 50.8%

ผลประกอบการช่วงปี 62-64 บริษัทมีรายได้รวม 5,654.6 ล้านบาท 4,950.0 ล้านบาท และ 5,265.0 ล้านบาท ตามลำดับ กำไรสุทธิ 251.0 ล้านบาท 244.2 ล้านบาท และ 303.4 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนงวด 9 เดือนแรกของปี 65 มีรายได้รวม 4,301.9 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 127.2 ล้านบาท

ณ วันที่ 30 ก.ย.65 บริษัมมีสินทรัพย์ 5,010.4 ล้านบาท หนี้สินรวม 3,541.2 ล้านบาท และส่วนผู้ถือหุ้น 1,469.2 ล้านบาท

บริษัทมีวงเงินกู้ยืมกับธนาคารกรุงเทพคงเหลือจำนวน 1,144.0 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินกู้ยืมระยะสั้น วงเงินกู้ยืมระยะยาว วงเงินเพื่อออกหนังสือค้ำประกัน และวงเงินซื้อขายเงินตราต่างประเทศ และมียอดเงินกู้คงค้างจำนวน 88.3 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นยอดคงค้างของเงินกู้ยืมระยะยาวจำนวน 49.3 ล้านบาท และยอดคงค้างของสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศจำนวน 39 ล้านบาท

บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังหักเงินสำรองต่าง ๆ