"หัวเว่ย เทคโนโลยีส์" ออกใบอนุญาตเทคโนโลยี 5G ให้ Oppo-Samsung ท่ามกลางการปราบปรามด้านเทคของสหรัฐ
สำนักข่าว Nikkei Asia รายงานเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2565 ว่า บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ (Huawei Technologies) ให้สิทธิ์ใช้งานเทคโนโลยีหลักแก่สมาร์ทโฟนคู่แข่งอย่าง Oppo เนื่องจากบริษัทพยายามต่อต้านการปราบปรามด้านเทคโนโลยีของสหรัฐ
โดยข้อตกลงดังกล่าวอนุญาตให้ใช้สิทธิบัตรกับ Oppo ซึ่งเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก ถือเป็นข้อตกลงที่ใหญ่ที่สุดของ Huawei กับบริษัทจีน และครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ เช่น 5G และ Wi-Fi ตลอดจนเทคโนโลยีเสียงและวิดีโอ
รวมถึงหัวเว่ย เทคโนโลยีส์ ยังได้ให้สิทธิ์เทคโนโลยี 5G ที่สำคัญแก่ Samsung Electronics ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชั้นนำของโลกและข้อตกลงเหล่านั้นได้รับการขยายออกไป
ซึ่ง Huawei กล่าวว่ามีข้อตกลงการอนุญาตสิทธิบัตรกับ 20 บริษัท รวมถึงผู้เล่นในและต่างประเทศ Samsung เป็นผู้รับใบอนุญาตที่ใหญ่ที่สุดของ Huawei ในบรรดาบริษัทต่างชาติในแง่ของจำนวนอุปกรณ์ที่ขายและสิทธิบัตรที่ครอบคลุม ในขณะที่ Oppo เป็นบริษัทในประเทศที่สำคัญที่สุดด้วยมาตรการเดียวกัน
ทั้งนี้หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ ทำงานเพื่อเพิ่มรายได้จากการออกใบอนุญาตสิทธิบัตรหลังจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ ทำให้ธุรกิจผลิตสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์โทรคมนาคมหลักหยุดชะงัก หัวเว่ยเป็นบริษัทแรกในโลกที่เปิดตัวชิปเซ็ตรวม 5G แต่ถูกบังคับให้ละทิ้งการพัฒนาดังกล่าวหลังจากที่สหรัฐจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีของสหรัฐอย่างรุนแรง รวมถึงซัพพลายเออร์การผลิตชิปชั้นนำ ขณะนี้บริษัทสามารถซื้อชิปเซ็ตมือถือ 4G ที่ดาวน์เกรดจาก Qualcomm ของสหรัฐเท่านั้น แต่ยังคงควบคุมพอร์ตโฟลิโอสิทธิบัตร 5G ที่มีอยู่มากมาย
Alan Fan หัวหน้าฝ่ายทรัพย์สินทางปัญญาของ Huawei กล่าวในการแถลงข่าวว่า "Huawei ได้พัฒนาพอร์ตโฟลิโอสิทธิบัตรมูลค่าสูงหลายรายการในตลาดโลกในโดเมนต่างๆ เช่น 5G, Wi-Fi และตัวแปลงสัญญาณเสียงและวิดีโอ สิ่งนี้จะช่วยให้อุตสาหกรรมของเราสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่แข่งขันได้มากขึ้นแก่ผู้บริโภค"
ขณะที่ Oppo กล่าวกับ Nikkei Asia ว่าข้อตกลงใบอนุญาตจะทำให้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ 5G ที่ทันสมัยที่สุดของ Huawei ในขณะที่ Huawei จะสามารถใช้สิทธิบัตรบางส่วนของ Oppo ได้
อย่างไรก็ตาม Huawei ไม่ได้เปิดเผยมูลค่าของข้อตกลงแต่ละฉบับ แต่กล่าวว่ารายได้จากการออกใบอนุญาตสิทธิบัตรอยู่ระหว่าง 1.2-1.3 พันล้านดอลลาร์ระหว่างปี 2562-2564 และรายได้ดังกล่าวก็เพิ่มขึ้น
ในแง่ของจำนวนสิทธิบัตรที่ได้รับในปี 2564 หัวเว่ยอยู่ในอันดับที่ 1 ทั้งจากสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติจีนและสำนักงานสิทธิบัตรยุโรป และอันดับที่ 5 สำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของสหรัฐ
หัวเว่ยกล่าวว่า บริษัทยังคงทุ่มเทให้กับการลงทุนระยะยาวในการวิจัยและพัฒนา และเพื่อเพิ่มพูนผลงานด้านทรัพย์สินทางปัญญา ณ สิ้นปี 2564 ทั้งนี้บริษัทมีพนักงาน R&D 107,000 คน หรือเกือบ 55% ของพนักงานทั้งหมด
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
